The Tibetan Book of the Dead คัมภีร์โบราณที่จะเปลี่ยนวิธีที่คุณมอง ความตาย

ถ้าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต...
คุณจะเลือกทำอะไร ?
และถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไปต่อหน้า...
คุณจะช่วยเขาได้ยังไงบ้าง ?

ในโลกที่เต็มไปด้วยความกลัวต่อความตาย การพูดถึงมันกลายเป็นสิ่งต้องห้าม ในความจริงไม่มีอะไรแน่นอนเท่าความตาย และไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนวิธีที่เรา "ใช้ชีวิต" ได้ลึกเท่าการเข้าใจ "ศิลปะแห่งการตายอย่างมีสติ"

บทความนี้ เราจะพาคุณไปสัมผัสโลกของ The Tibetan Book of the Dead คัมภีร์มรณะแห่งทิเบต หนึ่งในคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดของมนุษยชาติ ที่ไม่ได้เขียนเพื่อคนจะตายเท่านั้น แต่เพื่อคนมีชีวิต ที่ยังหายใจอยู่ เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ในทุกๆ วันที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและการสูญเสีย

The tibetan book of the death

สรุป Podcast ย่อยง่าย

หากคุณมีเวลาน้อย นี่คือ บทสรุป 5 สิ่งสำคัญ จากบทสนทนา Podcast ตอนวิธีช่วยคนรักและตัวคุณเองในวินาทีสุดท้าย

  • ความตายไม่ใช่จุดจบ
    The Tibetan Book of the Dead บอกว่า ความตายไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นช่วงว่างแห่งการเปลี่ยนผ่าน เรียกว่า Bardo ในช่วงเวลานี้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การมี สติรู้ตัว เพื่อไม่หลงไปตามนิมิตหรือความกลัว
  • ในวินาทีสุดท้าย "แสงแห่งธรรมชาติแท้" จะเกิดขึ้น
    • ถ้าเราจำได้ ไม่กลัว ไม่หลงไปกับแสง เราจะสามารถ หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร
    • ถ้าจำไม่ได้ จิตจะสร้าง “นิมิต” ต่างๆ ขึ้นมา เราจะต้องมีสติ รู้ทันนิมิต ก็จะสามารถ หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร ได้เช่นกัน
  • วิธีช่วยคนที่กำลังจะจากไป
    • ให้ความอบอุ่นมั่นใจ ไม่ร้องไห้
    • เรียกชื่อเขาเบาๆ → อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นคือตอนนี้ธาตุกำลังสลาย
    • อ่านคำสอน, กล่าวคำปลอบประโลม กระตุ้นให้จิตมี สติ
  • การฝึกเตรียมใจ เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
    • ฝึก ปล่อยวาง, ยอมรับ, รู้ทันความกลัว ในชีวิตประจำวัน คือ การซ้อมใจให้พร้อมรับวาระสุดท้าย
  • ไม่ยื้อ คือ สิ่งที่จะช่วยคนในวินาทีสุดท้าย  
    แม้จะเป็นเรื่องยากที่สุด แต่การการปล่อยด้วยใจที่อ่อนโยน ไม่ร้องไห้ ฟูมฟาย คือการอยู่ด้วยในวินาทีสุดท้ายที่ดีที่สุด

อยากฟัง Podcast ตอนเต็ม → คลิกที่นี่เพื่อฟัง Podcast "วิธีช่วยคนรักและตัวคุณเองในวินาทีสุดท้าย"

ทำไมต้อง ‘เตรียมตาย’

ความตายถูกพูดถึงมากขึ้นแต่ก็ยังไม่มากพอ

เราเรียนรู้ วิธีมีสุขภาพดี
เราเรียนรู้ วิชาหาเงิน
แต่ไม่มีใครสอน “การจากไปอย่างมีสติ”
หรือ “การช่วยคนที่เรารักจากไปอย่างสงบ”

เราจึง ไม่รู้ว่าควรทำอะไรในวินาทีที่มันมาถึงจริงๆ และหลายคนต้องแบกความรู้สึกผิดที่ว่า "ฉันน่าจะช่วยเขาได้ดีกว่านี้"  และนี่คือเหตุผลที่เราควรเริ่มเตรียมตัวตายตั้งแต่วันนี้

  • ความตายต้องเกิดขึ้นแน่นอน
    The Tibetan Book of the Dead
    สอนว่า “Bardo” หรือช่องว่างระหว่างชีวิตและความตาย ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะในคนที่ตาย แต่เกิดในทุก “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” ของชีวิต
    • ช่วงเปลี่ยนงาน
    • ช่วงเลิกกับคนรัก
    • ช่วงสูญเสียสิ่งสำคัญ
    • ช่วงเจ็บป่วย

ถ้าเราซ้อมอยู่กับ Bardo เล็กๆได้ เราจะรับมือกับ Bardo ใหญ่ที่สุดคือความตายได้ดีขึ้น

  • ถ้าไม่เตรียมใจ ความกลัวจะนำทาง
    ในวินาทีสุดท้าย ถ้าจิตเต็มไปด้วย ความยึดติดและความกลัว เราจะไม่เห็น “แสงแห่งธรรมชาติแท้” แต่จะเห็น “นิมิต” ที่สร้างจากจิตของตัวเอง ซึ่งพาไปสู่การเวียนว่ายต่อไป ในทางกลับกัน ถ้าเตรียมใจไว้ดี เราจะมีสติ และมีโอกาสหลุดพ้นจากวัฏฏะได้
  • ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เรารัก
    คนที่กำลังจะจากไปอาจจัดการความกลัวของตัวเองไม่ได้เสมอไป แต่ถ้ามีคนข้างๆ ที่พูดถูกจังหวะ คอยเตือนให้มีสติอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความสงบ คนๆ นั้นจะมีโอกาส “จากไปด้วยดี” สูงขึ้น
  • ทำให้เราใช้ชีวิตมีความหมายขึ้น
    เมื่อเรารู้ว่า “ทุกสิ่งเป็นของชั่วคราว” เราจะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า และ รักคนที่อยู่ตรงหน้าได้เต็มที่ขึ้นทุกวัน
หญิงชราเตรียมตัวตายอย่างสงบสุข

The Tibetan Book of the Dead คืออะไร?

“เมื่อเรายังมีชีวิต เรามีโอกาสฝึกจิต
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางอันยิ่งใหญ่ที่สุด
  • The Tibetan Book of the Dead หรือ Bardo Thödol เป็นคัมภีร์โบราณในสายพุทธวัชรยานของทิเบต
    Bardo = ระหว่างภาวะ
    Thödol
    = การปลดปล่อยด้วยการได้ยิน
  • คัมภีร์นี้ถูกรวบรวมโดย ท่านปัทมสมภวะ พระอาจารย์ผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนาในทิเบตเมื่อราวศตวรรษที่ 8 ต่อมาถูกค้นพบอีกครั้งโดย คาร์มา ลิงปะ ในศตวรรษที่ 14 ซึ่งถือเป็น "เทเรมา" หรือ คัมภีร์ปริศนาที่ซ่อนเร้นไว้เพื่อผู้มีบุญญาบารมีในอนาคต
  • เป้าหมายของคัมภีร์มี 3 เป้าหมายหลัก ไม่ได้เขียนเพื่อ “คนจะตาย” อย่างเดียวแต่เขียนเพื่อ “คนเป็น” ที่ยังมีโอกาสฝึกจิตก่อนตายด้วย
    • ช่วยผู้ที่กำลังจะตาย ให้ผ่านพ้น Bardo ได้อย่างมีสติ มีโอกาสหลุดพ้นจากวัฏฏะ
    • ช่วยผู้ที่มีชีวิตอยู่ ให้เข้าใจธรรมชาติที่แท้ของจิต ไม่กลัวความตาย ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า
    • สอนผู้ดูแล / ญาติ / พระสงฆ์ ให้ช่วยผู้ตายด้วยการอ่านบทสวด หรือเตือนจิตในวินาทีสุดท้าย
  • คัมภีร์นี้ไม่ได้มีแค่คำสอนเชิงศาสนา แต่เป็น คู่มือจิตวิทยาขั้นสูง ที่พูดถึง “สภาวะของจิต” และได้อธิบาย ลำดับขั้นของประสบการณ์หลังตาย อย่างละเอียด
    • ช่วงที่ 1: ความว่างบริสุทธิ์ ถ้าจิตมีสติระลึกรู้ จะสามารถหลุดพ้นได้
    • ช่วงที่ 2: นิมิตแห่งพระโพธิสัตว์ เป็นภาพสวยงาม ถ้าจิตหลง จะติดอยู่ในโลกทิพย์
    • ช่วงที่ 3: นิมิตแห่งเทพพิโรธ เป็นภาพน่ากลัว ถ้าจิตหลง จะเกิดใหม่ด้วยจิตหวาดกลัว
    • ช่วงที่ 4: การเลือกภพชาติใหม่ เกิดใหม่ หรือหลุดพ้น
  • ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นใน Bardo ล้วนเป็นภาพของจิตเอง การมีสติรู้ทัน คือหัวใจสำคัญของการหลุดพ้น
พระธิเบตอ่านหนังสือ

3 สิ่งที่ช่วยให้จากอย่างสงบ

แม้ความตายจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราทุกคนสามารถ เตรียมตัว เพื่อให้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต “สงบ อบอุ่น และมีสติ” ได้ ใน The Tibetan Book of the Dead คำว่า สงบ ไม่ใช่เพียงอารมณ์ แต่คือ สภาวะจิตที่พร้อมหลุดพ้น และนี่คือ 3 สิ่งสำคัญที่สุด ที่ช่วยให้ใครสักคนจากไปอย่างงดงาม

  • สภาพแวดล้อมสงบ มีคนไว้ใจอยู่ใกล้
    เมื่อจิตใกล้หลุดจากร่าง ความรู้สึกจะเปราะบางมาก จิตรับทุกอย่างรอบตัวได้แรงกว่าปกติหลายเท่า การดูแลคนที่กำลังจะจากไป ไม่ใช่แค่เรื่องการแพทย์ แต่คือการสร้าง สภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อจิตสุดท้าย ได้แก่
    • บรรยากาศเงียบ สงบ มีแสงนวล และไม่มีสิ่งรบกวน
    • คนที่อยู่ข้าง ๆ นิ่ง อบอุ่น ไม่ร้องไห้ฟูมฟาย เพราะจิตผู้ตายจะรับคลื่นความเศร้าได้อย่างชัดเจน
    • ถ้าผู้กำลังจะตายมีศรัทธาทางศาสนาใด ให้เปิดเสียงบทสวดเบา ๆ หรือ อ่านคำสอนที่ “ตรงกับศรัทธา” ของผู้กำลังจะตาย
    • ถ้าผู้ตายไม่มีศรัทธาในศาสนาใดอย่างแน่ชัด อาจเปิดเพลงธรรมชาติ หรือ พูดปลอบโยน สิ่งเหล่านี้จะช่วยประคองจิตให้ผู้กำลังจะตายคลายจากร่างอย่างนุ่มนวล
  • คำพูดสุดท้ายมีพลังมากกว่าที่คิด
    หลังตายใหม่ ๆ จิตยังคงรับรู้ได้ชัดเจน แม้จะไม่มีร่างกาย เสียงที่ได้ยินในช่วง Bardo อาจเป็นสิ่งเดียวที่ปลุกจิตให้ตื่นและหลุดพ้นจากภพชาติ ดังนั้น หากคุณอยู่ใกล้คนที่กำลังจะจากไป
    • พูดด้วยความรัก ไม่กล่าวถึงสิ่งที่ทำให้ใจเขาติดค้างใจ
    • กล่าว "ขอให้ไปสู่ความสงบ” หรือ “ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงอะไรอีก”
    • หากผู้ตายมีศรัทธาในศาสนาไหน ใช้คำที่เขาคุ้นเคย เช่น “เดินทางกลับบ้าน” “ไปสู่พระเจ้า” “หลุดพ้นจากวัฏฏะ”
  • ฝึกจิตตั้งแต่วันนี้
    ไม่มีการเตรียมตัวแบบไหนในวินาทีสุดท้าย จะได้ผลเท่ากับการฝึกมีสติตั้งแต่ยังมีชีวิต คัมภีร์ทิเบตเน้นหนักว่า ผู้ที่ กลัวตายมากที่สุด มักเป็นผู้ที่ ใช้ชีวิตโดยไม่เคยเผชิญหน้ากับมันเลย เราจึงสามารถเริ่มฝึกได้ตั้งแต่วันนี้
    • ฝึกสติด้วยการ “มองความตาย” เป็นเพื่อน
    • ฝึกนั่งสมาธิ สังเกตความคิด เพื่อค่อย ๆ ทำความเข้าใจว่า เราไม่ใช่ความคิด ร่างกาย หรือสิ่งใดเลย
    • เมื่อเข้าใจจิตแท้ ความตายกลายเป็นเพียงการเดินทาง ไม่ใช่จุดจบ
หญิงชรามีความสุขกับครอบครัวและหลาน ๆ
ถ้าคุณมีสติ
ในขณะที่คนที่คุณรักกำลังจะจากไป
คุณไม่ได้แค่ช่วยเขา
แต่คุณกำลัง “ฝึกฝนตัวคุณเอง”
เพื่อวันนั้นของคุณเช่นกัน

บทสวดที่ใช้ในวินาทีสุดท้าย

ในวาระสุดท้าย แค่ 1 คำพูด, 1 บทสวด, 1 เพลงที่เขาคุ้นเคย ก็อาจเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้เขาปล่อยได้อย่างสงบที่สุด

The Tibetan Book of the Dead ย้ำไว้ชัดว่า การช่วยคนใกล้ตาย ไม่ได้หมายถึง “ต้องเก่งธรรมะ” หรือ “ต้องเป็นพระ” แต่หมายถึง การรู้ว่าจะพูดอะไร จะเปิดเสียงอะไร จะสร้างบรรยากาศแบบไหน ที่สอดคล้องกับ "หัวใจ" ของเขา

สิ่งที่เราควรเตรียมไว้ล่วงหน้า

  • บทสวดหรือเสียงที่ผู้ตายคุ้นเคย
    • บทสวดมนต์ที่เขารัก เช่น บทเมตตา, คำภาวนาแบบคริสต์, มหากรุณาธารณีสูตร
    • เสียงธรรมะจากครูที่เขาศรัทธา
    • เพลงธรรมชาติที่เขาชอบเป็นพิเศษ เช่น เสียงลำธาร, ลม, นกร้อง
  • คำพูดที่ช่วยให้ปล่อยวาง สามารถควรซ้อมพูดไว้ก่อนได้ แต่เมื่อถึงเวลาควรพูดด้วยความรู้สึกจากใจจริง ไม่ใช่การท่องจำ ตัวอย่างคำพูด :
    • ไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
    • ให้ไปสู่ความสงบ ให้ใจเบาสบาย
    • "ทุกอย่างเป็นของชั่วคราว ปล่อยมือได้อย่างสงบ
    • ให้ใจเปิดรับแสงที่บริสุทธิ์ตรงนั้นนะ
  • สิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
    • สถานที่สบาย
    • แสงนวล / ไม่มีแสงจ้า
    • กลิ่นหอมอ่อนๆ (ที่เขาชอบ)
    • คนใกล้ชิดที่นิ่ง สงบ ไม่ร้องไห้ต่อหน้า
แม่ลูกจับมือด้วยความรัก

แจก Worksheet: "ออกแบบความตาย"

เพื่อให้ ตัวเราเอง และ คนที่เรารัก ได้รู้ว่า เมื่อวันนั้นมาถึง เราอยากให้อะไรเกิดขึ้นรอบตัวเรา เช่น

  • เพลง บทสวด หรือเสียงพระที่อยากได้ยิน
  • คำพูดที่ฟังแล้วสบายใจ
  • คนที่อยากให้อยู่ข้าง ๆ
  • สภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ผ่อนคลาบ

กดที่นี่ เพื่อดาวน์โหลด Worksheet: ออกแบบความตายของตัวเอง (PDF)

การได้เริ่มพูดเรื่องนี้ตั้งแต่วันนี้ คือ จุดเริ่มต้นที่ดี แต่การได้ลงมือฝึกและออกแบบวาระสุดท้ายของตัวเอง คือของขวัญที่ดีที่สุดที่เราให้ตัวเองและคนที่เรารัก

ถ้าคุณหยุดฟังเสียงในใจได้มากขึ้น
และอยากฝึกแบบค่อยเป็นค่อยไปกับเรา

พื้นที่เงียบสงบสำหรับสร้างวัฒนธรรมภายใน
Latest POSTS